วันอังคารที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2554

Iron Maiden



     Iron Maiden ฟอร์มวงกันตั้งแต่ปี 1975 โดยมือเบสหนุ่มนาม Steve Harris อดีตสมาชิกของวง Gypsy's Kiss และ Smiler โดยเขาได้ชื่อวง Iron Maiden มาจากชื่อของภาพยนตร์เรื่อง Man in the Iron Mask และชื่อของเครื่องทรมาณของศตวรรษที่ 17 



นอกจากเล่นเบสแล้ว Steve ถือได้ว่าเป็นนักเตะตัวยงด้วย ไม่ใชเตะบอลนะคับ แต่เป็นการเตะโด่งสมาชิกของวงออกไปทีละคน 2 คน หรือบางทีก็เตะออกไปทั้งวง พูดอีกนัยหนึ่งคือพี่แกเห็นหน้านักดนตรีเป็นลูกบอลไปแล้วก็ว่าได้ แต่อย่างไรก็ตามมีหนุ่มอยู่นามนึงที่ Steve ยังไม่กล้าเตะเพราะกลัวโดนเตะกลับ เขาก็คือ Dave Murray มือกีตาร์คู่บุญนี่เอง ซึ่ง Steve ได้รู้จักเขาผ่านทาง Dennis Wilcock อดีตนักร้องนำ Iron Maiden ที่เคยโดนสตีฟเตะโด่งมาแล้ว


Steve และ Dave ต่างก็ช่วยกันค้นหาสมาชิกเพื่อมาฟอร์มวง Iron Maiden ให้สมบูรณ์ หลังจากที่เล่นสตีฟเตะฟรีคิ๊กสมาชิกไปหลายคน และในที่สุดพวกเขาก็มารู้จักกับนักร้องชื่อ Paul Di'Anno และได้ร่วมกันออกเดโมตำนานตัวแรกที่ชื่อว่า The Soundhouse Tapes เดโมตัวนี้ขายได้ร่วม 5 พันก๊อปปี้ภายในอาทิตย์แรกเท่านั้น โดยเพลง Prowler ก้กลายเป็นเพลงดังติดชาร์ตันดับ 1ของนิตยสาร Sounds Magazine และนอกจากนี้ก็ได้มีการนำเพลงของ Iron Maiden รวมในอัลบั้มรวมเพลงของเหล่าวง NWOBHM ในตำนานชื่อ Metal for Muthas ที่ออกมาในปี 1980 โดยเพลงที่นำไปรวมคือเพลงแต่งใหม่ชื่อว่า Sanctuary และ Wrathchild ซึ่งภายหลังกลายมาเป็นเพลงระดับคลาสสิคของวงทั้ง 2 เพลง นอกจากนี้ทางวงยังได้ติดต่อกับ Adrian Smith มือกีตาร์ที่เป็นเพื่อนวัยเด็กของ Dave เพื่อมาเป็นมือกีตาร์คนที่ 2 ของทางวงด้วย แต่ Adrian กลับหยิ่งและปฏิเสธไปด้วยเหตุผลที่ว่าเขาต้องการให้เวลากับวงของเขามากกว่า


ด้วยความสำเร็จแบบถล่มทลายพวกเขาจึงได้เซ็นสัญญากับสังกัดยักษ์ของเกาะอังกฤษอย่าง EMI และออกอัลบั้มเต็มชุดแรกใช้ชื่อเดียวกะวงว่า Iron Maiden ในปี 1980 อัลบั้มนี้ประสบความสำเร็จจนพุ่งทะลุชาร์ตในประเทศบ้านเกิดถึงอันดับ 4 และทำให้ชื่อของวงถูกจับตามองว่าเป็น 1 ในหัวหอกของกระแสดนตรี NWOBHM ไป นอกจากนี้ทางวงยังได้ Adrian Smith (ที่ตอนแรกทำหยิ่ง) มาเล่นกีตาร์ให้แบบถาวรด้วย

Aerosmith



Aerosmith (แอโรสมิธ)  

ข้อมูลพื้นฐาน

แหล่งกำเนิด บอสตัน รัฐแมสซาชูเส็ตต์ สหรัฐอเมริกา
แนวเพลง ฮาร์ดร็อก, เฮฟวีเมทัล, บลูส์-ร็อก[1]
ปี 1970-ปัจจุบัน
ค่าย   Columbia,Geffen,Columbia



แอโรสมิธ (อังกฤษ: Aerosmith) เป็นวงฮาร์ดร็อกอเมริกัน ที่ในบางครั้งมีฉายาว่า "แบดบอยจากบอสตัน" และ "วงร็อกแอนด์โรลอเมริกันที่ยอดเยี่ยมที่สุด" แนวเพลงมีลักษณะฮาร์ดร็อกที่มีรากมาจากแนวเพลงบลูส์ และยังรวมกับองค์ประกอบของแนวป็อป, เฮฟวีเมทัล แกลมเมทัล, และอาร์แอนด์บี ที่มีอิทธิพลต่อศิลปินรุ่นหลังในเวลาต่อมา วงก่อตั้งในบอสตัน รัฐแมสซาชูเสตต์ ในปี 1970 มือกีตาร์ โจ เพอร์รี และ มือเบส ทอม ฮามิลตัน เริ่มในวงตั้งแต่แรก ตั้งชื่อวงว่า แจมแบนด์ จากนั้นเจอนักร้อง สตีเวน ไทเลอร์ ,มือกลอง โจอี คราเมอร์ และมือกีตาร์ เรย์ ทาบาโน และรวมกันในชื่อวง แอโรสมิธ โดยในปี 1971 ทาบาโนออกและแบรด วิทฟอร์ดมาแทน จากนั้นเริ่มพัฒนาวงในบอสตัน

พวกเขาเซ็นสัญญากับโคลัมเบียเรคคอร์ดส ในปี 1972 และออกผลงานที่ขายได้หลายแผ่นเสียงทองคำขาว เริ่มต้นในปี 1973 กับอัลบั้มเปิดตัว และในปี 1975 วงได้ก้าวสู่กระแสหลักกับอัลบั้ม Toys in the Attic และกับผลงานปี 1976 กับร็อกที่แข็งขึ้นในฐานะฮาร์ดร็อกซุเปอร์สตาร์ โดยในปลายยุค 1970 พวกเขาเป็นวงที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในกลุ่มวงประเภทฮาร์ดร็อกและมีแฟน เกิดขึ้นมา ที่มักจะเรียกตัวเองว่า "บลูอาร์มี่" อย่างไรก็ตามเกิดปัญหาขึ้นภายในทั้งการติดยา ทำให้เพอร์รีและวิทฟอร์ดออกไป ในปี 1979 และ 1981 ตามลำดับ และมาแทนที่โดย จิมมี เครสโพและริก ดูเฟย์ พวกเขาไม่ได้ลาจากระหว่างปี 1980 และ 1984 และออกผลงานอัลบั้มชุดเดียว คือ Rock in a Hard Place ที่มียอดขายระดับแผ่นเสียงทองคำแต่ไม่ประสบความสำเร็จเมื่อเทียบกับชุดก่อน

Nirvana



     ช่วง เวลาหนึ่งของวงการดนตรีของอเมริกานั้นต้องยอมรับอย่างหนึ่งว่าเป็นยุคของ ร็อคผมยาว ชุดหนัง รองเท้าหนัง นิสัยต้องกร่างทำตัวแย่ๆเข้าไว้ มีเรื่องให้เยอะ ประดุจว่าเป็นเทพเจ้า และบทเพลงต้องมีโซโล่ที่รวดเร็วประดุจลมกรด และที่สำคัญจะต้องเป็นวงร็อคที่มีสมาชิกในวงเป็นกีต้าร์ฮีโร่ถึงจะเป็นที่ นิยม แต่เมื่อวันเวลาผ่านไปดนตรีเหล่านั้นได้ถูกเบียดตกขอบ โดยชายผู้หนึ่งที่เล่นกีต้าร์อย่างไม่มีเทคนิคหรือทฤษฎีอะไรมากมายเลย เขาไม่ใช่คนที่เล่นโซโล่เร็วหรือเพลงแทบไม่มีโซโล่เลยก็ว่าได้ เพลงไม่มีรูปแบบซับซ้อนอีกทั้งวงไม่ต้องใช้สมาชิกเยอะมากมาย มีเพียงแค่ 3 ชิ้นเท่านั้น

บทเพลงของเขารวมถึงในส่วนของดนตรีนั้นเขาเล่นมันออก มาจากใจและอารมณ์ดิบที่รอการปลดปล่อยออกมาทางบทเพลง บุคคลผู้นี้คือคนที่มาเปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์ของดนตรีอีกหนึ่งหน้า และโลกจะต้องจดจำเขาผู้นี้ไปตลอดกาล เขาคือ Kurt Cobain ความสำเร็จที่เกิดขึ้นกับตัวของ Kurt นั้นมันมาอย่างรวดเร็วมากนั้นตอนที่เขาเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกนั้นเขามีอายุ เพียงแค่ 20 ปีเท่านั้น นับได้ว่าเป็นความสำเร็จที่ได้มาอย่างรวดเร็วเหลือเกิน Kurt เกิดเมื่อวันที่ 20 เดือน กุมภาพันธ์ ปี 1967 ในเมือง Aberdeen รัฐ Washington.ในช่วงวัยเด็กเขาเป็นเด็กที่ช่างกระตือรือร้นแทบทุกเรื่อง Kurt เป็นเด็กที่น่ารักชอบเล่นสนุกอย่างเด็กๆทั่วไป แต่พอเมื่อเขาย่างเข้าอายุ 7 ขวบทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตเขาเริ่มที่จะเปลี่ยนจุดแรกที่เปลี่ยนอย่าง เห็นได้ชัดเจนเลยก็คือ สภาพครอบครัวต้องแตกแยก พ่อและแม่ของเขาตัดสินใจแยกทางเดินที่จะอยู่ด้วยกันและอีกจุดคือพ่อและแม่ ของเขาส่งเขาไปอยู่กับญาติ และจุดเหล่านี้แหละที่เริ่มทำให้ Kurt เริ่มที่จะแตกต่างจากเด็กทั่วๆไป และเด็กหลายๆคนก็มักที่จะเจอปัญหานี้เช่นกันนั้นคือ การขาดความอบอุ่นและการใส่ใจดูแล หากใครได้สังเกตเห็นเนื้อเพลงของ Nirvana ที่ชื่อว่า Silver เพลงนี้แหละครับที่เขาแต่งมันออกมาเพื่อสะท้อนชีวิตที่เกิดขึ้นในช่วงนี้ ชีวิตของ Kurt เริ่มที่จะเปลี่ยนแปลงขึ้นเรื่อยๆ เขาเริ่มเก็บตัวเงียบๆไม่ค่อยพูดคุยกับใครมากนัก เขาเริ่มเกลียดโรงเรียนและเริ่มที่จะไม่ไปเรียน


Kurt เริ่มหันมาสนใจศิลปะและชอบวาดรูปแทนการไปเรียนหนังสือ และอีกสิ่งในชีวิตของเขาที่ชอบและขาดไม่ได้เลย อีกทั้งเป็นต้นกำเนิดในการเปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์อีกหน้าหนึ่งด้วย นั้นคือ “ ดนตรี ” ในช่วงแรกนั้นเขาเริ่มฟังเพลงของวง The Beatles และ The Monkees ต่อมาจุดเปลี่ยนแปลงและต้นกำเนิดของ Nirvana เกิดขึ้นเมื่อเขาได้รู้จักกับวงอย่าง Black Sabbath, The Sex Pistols และวง The Clash เป็นต้น จะเห็นได้ว่าวงพวกนี้จะมีความเป็นพังก์และความดิบของดนตรีร็อกอยู่สูง ดังนั้นดนตรีเหล่านี้จึงสะท้อนออกมาทางบทเพลงของ Nirvana อยู่เยอะที่เดียว และเมื่อถึงวันเกิดครบรอบ 14 ปีของเขา Kurt ก็ได้ซื้อกีต้าร์ตัวแรกในชีวิตและเขาก็เริ่มหัดและทกลองเล่นในสิ่งที่แตก ต่างออกไปจากมือกีต้าร์คนอื่นๆ และKurt ยังได้ก่อตั้งวงขึ้นมาหนึ่งวงและตั้งชื่อมันว่า Melvins และ Kurt ก็ได้ทำสิ่งหนึ่งที่คนอื่นๆที่อายุรุ่นราวคราวเดียวกันไม่กล้าทำและเป็นสิ่ง ที่บรรดาผู้ใหญ่ต่างก็คิดไม่ถึงนั้คือการที่เขาตัดสินใจออกจากโรงเรียนก่อน ที่จะจบในอีกไม่นานเพื่อที่จะมาเล่นดนตรี แต่ต่อมาทุกอย่างก็ต้องกลับมาเริ่มต้นใหม่อีกครั้งเมื่องานในสายดนตรีมันไม่ ได้ยืนยาวอย่างที่เขาคิด แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น Kurt ก็ไม่ได้ท้ออะไรเกี่ยวกับมันมาก

Skid Row

           Skid Row เป็นวง Heavy metal ที่ถือได้ว่าเป็นต้นแบบวง metal ในยุค 90s เลยก็ว่าได้
    พวกเขาเริ่มก่อตั้งวงกันใน New Jersey ปี 1986 โดยทีตัวตั้งตัวตีคือ Rachel Bolan มือ Bass และ Dave Sabo มือ guitar นั่นเอง

           โดยทั้งคู่ได้ค้นหาสมาชิกมาร่วมทำวง metal กันและได้พบกับมือ guitar อีกคนคือ Scotti Hill เข้าหลังจากนั้นก็ได้ Rob Affuso เข้ามาทำหน้าที่หวดกลองให้โดยในยุคแรกนั้น นักร้องนำ คือ Matt Fallon ก่อนที่จะถูกแทนที่ด้วย Sebastian Bach นักร้องนำสุดจี๊ดแห่งยุคปลาย 80s ถึงต้น 90s

            ในปี 1987 พวกเขาก็ได้เริ่มตระเวณเล่นดนตรีกันตาม clubs ทั่วฝั่ง eastern กันเลยทีเดียว
    (ทำไมมันดูน่าสนุกยังงี้  คิดจะทำอะไรก็ทำกันได้เลย โอกาสมันช่างเยอะแยะเสียเหลือเ
    กิน) 
      แต่เหมือนว่าโชคชะตาจะเข้าข้าง เพราะ Sabo นั้นเป็นเพื่อนสนิทกันกับ Jon Bon Jovi นักร้องนำของวง Bon Jovi สุดโด่งดัง และการช่วยเหลือของ Jon Bon Jovi นี่เองที่ทำให้ Skid Row ได้เริ่มต้นบันทึกเสียง กับ Atlantic

      และในปี 1989 พวกเขาก็ปล่อย Album แรกออกมากระแทกหูชาวโลก ในชื่อ album สิ้นคิด เอ้ย เรียบง่ายว่า Skid Row
      แต่ดนตรีไม่เรียบง่าย จืดชืด แบบชื่ออัลบั้ม เพราะ Skid Row ชุดนี้ประสบความสำเร็จอย่างมาก ในทันที

      "18 and Life", "I Remember You", และ "Youth Gone Wild" ก็เข้าไปกระแทกรูหู และกระแทกใจผู้ฟังกันอย่างสนั่นหวั่นไหว ควักกระเป๋าจ่าย ซื้อ album นี้กันไปแทบไม่ทัน...ทั่วโลก 

    ความสำเร็จของ album แรกก็ทำให้พวกเขามีตาราง tour กันยาวเหยียดตลอดปี ไม่ต้องพัก ไม่ต้องอยู่บ้านกันเรียกว่านอนกันบนรถ tour ตลอดปี

Gun N' Roese


ข้อมูลพื้นฐาน


แหล่งกำเนิด ลอสแอนเจลิส แคลิฟอร์เนีย
แนวเพลง ฮาร์ดร็อค
ปี 1985 - ปัจจุบัน
ค่าย Geffen, UZI Suicide


สำหรับยุค 80 คงไม่มีใครที่ไม่รู้จักพวเขา นับตั้งแต่อัลบั้มแรกออกวางตลาด พวกเขาก็ครอบครองโลกใบนี้ไว้ในอุ้งมือ เหอๆ เป็นใครไปไม่ได้นอกจาก Gun N' Roses เอาล่ะ ไปรู้จักพวกเขาให้ดีกว่านี้ดีกว่าครับ

ในวันที่ 6 กุมภาพันธ์ ปี 1962 ไอ้หนู Axl Rose หรือ William Bailey   ก็ถือกำเนิดขึ้น
ถัดมาไม่กี่วัน 8 เมษายนปีเดียวกัน Izzy Stradlin [Jeff Isbell] ก็คลานออกมา
วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 1964 Duff McKagan [Michael McKagan] ก็ตามมาอีกคน
วันที่ 22 มกราคม 1965 Steven Adler ก็เกิดตามมา
คนสุดท้าย วันที่ 23 กรกฏาคม 1965 ไอ้ฟู Slash (Sual Hudson) ก็เกิดมาจนได้

ช่วงประมาณปี 1972-1976 Steven Adler กับ Slash ก็ย้ายไป Los Angelis

ตั้งแต่ปี 1976 -1983 ไอ้พวกที่เอ่ยๆ ชื่อมาข้างบนนั่นน่ะ ก็ต่างคนต่างเล่นดนตรีไปตามเรื่องตามราว โดยที่เจอกันบ้าง แต่ไม่ได้มีอะไรไปกว่าเพื่อนร่วมอาชีพเท่านั้น แต่....

ช่วงปลายๆ ปี 1983 Axl ก็ได้พบกับ Izzy และ Chris Weber และ Johnny Kreiss แล้วก็ตั้งวงดนตรีขึ้นชื่อว่า A.X.L และภายหลังก็เปลี่ยนมาเปง Rose ในภายหลัง แต่สุดท้ายพวกเค้าก็เปลี่ยนชื่อวงอีกครั้งคือ Hollywood Rose

ปลายปี 1984 Izzy ก็แยกตัวไปอยู่วง London กับ Chris Weber และ Axl ก็ลาออกจากวง Hollywood Rose และไปฟอร์มวงใหม่ชื่อว่า LA. Gun โดยมีสมาชิกอีกสองคนก็คือ Ole Beich และ Rob Gardner

พอสิ้นปี 1984 Hollywood Rose ก็กลับมารวมตัวเฉพาะกิจอีกครั้ง และ Tracii Guns ก็เข้ามาแทน Chris Weber

ต้นปี 1985 Duff ตัดสินในหันมาเล่นเบส และได้พบกับ Steven Adler กะ Slash โดยที่ตอนนั้นพวกเค้าก็ฟอร์มวงขึ้นมาคือ Road Crew และ Slash ก็โชว์ท่อน Riff ที่คิดขึ้นมาสดๆ ซึ่งภายหลังก็คือเพลง Paradise City นั่นเอง

26 มีนาคม 1985 LA Gun และ Hollywood Rose ก็มารวมตัวกันโดยใช้ชิ่อว่า Gun 'N Roses โดยที่พวกเค้าไม่ยอมรับชื่อวงอีก 2 ชื่อก็คือ Head of Amazon และ AIDS โดยที่มีสมาชิกดังนี้ Axl, Izzy, Tracii Guns, Beich และ Gardner

ต่อมา Duff ก็เข้ามาแทน Beich

วันพุธที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2554

Ozzy Osbourne



ชื่อในวงการ - Ozzy Osbourne
ชื่อจริงๆ ตามบัตรประชาชน - John Michael Osbourne
ชื่อเล่น - ไอ้อ้วน / Ozzy / Oz Brain/ John
วัรเดือนปีเกิด - 3 ธันวาคม 1948 (พศ. 2491) ปัจจุบันก็ 63 ปี
เกิดที่ - Birmingham / England
ภรรยา-Sharon 


       เจ้าพ่อแห่ง Hard Rock , Heavy Metal ป๋า Ozzy เริ่มตั้งวงดนตรีครั้งแรกในประมาณปี 1962 ใช้ชื่อวงว่า 'The Black Panthers' หลังจากนั้นไม่นาน เค้าก็ตัดสินใจที่จะเป็นนักดนตรี ต่อมาทางวงร๊อกชื่อดังระดับท้องถิ่น "Music Machine" ต้องการนักร้องนำ เพราะเจ้าของตำแหน่งเดิมเกิดป่วยขึ้นมาซะยังงั้น Ozzy ก็เลยเข้าไปมั่วๆ แล้วก็ได้ตำแหน่งนักร้องนำมาอย่างไม่ยากเย็นนัก พอหลังจากนั้นเค้าก็ลาออกไป แล้วก็ไปเข้าร่วมกะวง "Approach" แต่ก็อยู่ได้ไม่นานเพราะเบื่อ หลังจากนั้น Terence 'Geezer' Butler ก็ไปพบ Ozzy ขณะที่กำลังเดินซื้อของก็ชวนกันมาฟอร์มวง "Rare Breed" ส่วนอีกฟากนึง Toni Iommy และ William Ward ก็ฟอร์มวงของตัวเองอยู่แล้ว โดยใช้ชื่อวงว่า "Mythology" ก็ย้ายจากเมือง Carlise มาสู่ Birmingham และไปพบกับ Ozzy เข้า จึงชักชวนมาอยู่ในวง หลังจากนั้นทางวงก็รับสมาชิกเพิ่ม หลังจากนั้นไม่นาน Iommy ก็ไล่สมาชิกใหม่ออกไปแล้วก็เหลือสมาชิกเดิมก็คือ Ozzy, Ward, Butler และ Iommy ทั้งสี่คนก็เปลี่ยนชื่อวงใหม่อีกครั้งเป็น "Earth" ซึ่งวงนี้ก็จะเล่นเพลงแนว Blues Rock และต่อมาทั้งสี่คนก็ไปดูหนังเรื่อง Black Sabbath แล้วเกิดความหลอนจิตก็เลยเปลี่ยนชื่อวงมาเป็น Black Sabbath ซะยังงั้นแหละ


       และแล้วในวันศุกร์ที่ 13 เดือนมกราคมปี 1970 อัลบั้มแรกของ Black Sabbath ก็ออกวางจำหน่าย มีตำนานเล่าขานว่า Toni Iommy แต่งเพลง Black Sabbath ขึ้นในคุกใต้ดินของปราสาทอะไรซักอย่างนี่แหละ ลืม แล้วก็ถ้านำเพลง Black Sabbath มาเล่นแบบย้อนกลับ ก็จะเป็นคำสวดบูชาซาตาน (มั่วป่าววะ) พอวงเริ่มมีชื่อเสียง ปัญหาที่ตามมาของเหล่าเมทัลก็คือ ยาเสพติด เหล้า ผู้หญิง ซึ่งทำให้ Ozzy แทบจะเสียผู้เสียคนไป ช่วงนี้ก็จะข้ามไปในปี 1978 เลยละกัน


       ช่วงปลายปี 1977 Ozzy ลาออกจากวง Black Sabbath ด้วยสาเหตุ พ่อตาย!!! และปัญหายาเสพติด เหล้า ฯลฯ ก็กึ่งๆ ถูกไล่ออกจากวงด้วยนะ โดยที่ William "Bill" Ward เป็นคนเดียวที่ไม่เห็นด้วยในเรื่องการไล่ออก Ozzy


       Ozzy แต่งงานครั้งแรกกับ Thelma ซึ่งสาวคนนี้ก็มีลูกติดซะด้วยล่ะ ในปี 1981 Ozzy ได้ตัดสินใจแต่งงานกับผู้จัดการวง Black Sabbath และต่อมาพอ Ozzy ถูกไล่ออกจาก BS แล้วก็ดึง Sharon ตามออกมาด้วย ในวันที่ 4 กรกฏาคม ปี 1982 Ozzy กับ Sharon ซึ่งเป็นลูกสาวของ Don Arden ผู้จัดการวงคนเก่านั่นแหละ 

Black Sabbath



       Black Sabbath มีอิทธิพลอย่างมากต่อการพัฒนาวงการเพลงเฮฟวีเมตัล รวมถึงยังเป็นผู้คิดค้นสไตล์เพลงแบบนี้อีกด้วย Black Sabbath ได้นำเอากลิ่นไอบลูส์ร็อคของวงในปลายยุค 60 อย่างเช่น Cream, Blue Cheer, และ Vanilla Fudge มาใส่ในงานของพวกเขา ด้วยจังหวะที่ช้าลง แต่เบสไลน์ที่โดดเด่น โซโล่กีตาร์กระชากใจ บวกกับเสียงร้องที่โหยหวน เนื้อร้องที่เต็มไปด้วยการแสดงออกถึงอารมณ์ ความเจ็บปวดทรมาน และจินตนาการอันน่ากลัว และถ้าก่อนหน้านี้มีวงดนตรีอื่นที่ทำผลงานออกมาในแนวบลูส์ วง Black Sabbath ก็ทำงานเพลงที่แหวกแนวขึ้นไปอีก และยังก่อให้เกิดแนวเพลงในทิศทางใหม่ๆที่เรียกความสนใจจากแฟนเพลงนับล้านคนในเวลาต่อมา

       วงประกอบด้วยเด็กหนุ่มสามคนจาก Aston ใกล้กับ Birmingham ประเทศอังกฤษ: Anthony หรือ Tony Lommi มือกีตาร์ (เกิดเมื่อ 19 กพ.1948), William Bill Ward มือกลอง (เกิดเมื่อ 5 พค. 1948) และ John Ozzy Osbourne นักร้องนำ (เกิดเมื่อ 3 ธันวาคม 1948) และ Terence "Geezer" Butler มือเบส (เกิดเมื่อ 17 กค.1949)  พวกเขาเรียกวงแนวบลูส์แจ๊สของตัวเองว่า Polka Tulk และต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็น Earth ต้นปี 1969 เมื่อออกแสดงทั่วยุโรปแล้ว พวกเขาก็ตัดสินใจเปลี่ยนชื่อวง เนื่องจากพบว่าพวกเขาถูกจำสับสนกับวงดนตรีที่ชื่อ Earth เช่นกัน Butler เขียนเพลงที่นำชื่อเพลงมาจาก นวนิยายลึกลับของ Dennis Wheatley ชื่อว่า Black Sabbath และนำมาใช้ตั้งเป็นชื่อวงอีกด้วย

       เมื่อพวกเขาออกแสดงสด ค่ายเพลงหลายค่ายแสดงความสนใจ และพวกเขาตกลงเซ็นสัญญากับค่าย Phillips Record ในปี 1969  เดือนมกราคม ปี 1970 สังกัดย่อยของค่าย Phillips ที่ชื่อ Fontana ได้ออกซิงเกิ้ล Evil Woman (Don't Play Your Games With Me) เป็นเพลงคัฟเวอร์เพลงฮิตในอเมริกาแต่ก็ไม่ติดชาร์ต ในเดือนต่อมา สังกัดอื่นของค่าย Phillips อย่าง Vertigo ได้ปล่อยอัลบั้มที่ใช้ชื่อวง Black Sabbath และเป็นอัลบั้มที่ขึ้นสู่ UK ท๊อปเท็น ถึงแม้ว่าอัลบั้มนี้ไม่ได้ประสบความสำเร็จอย่างทันทีในอเมริกา ที่ที่วงออกอัลบั้มกับค่าย Warner Bros. Records และออกวางตลาดในเดือนพฤษภาคม 1970 และเข้าสู่อเมริกันชาร์ตในเดือนสิงหาคมปีเดียวกัน และไต่ขึ้นสู่อันดับในชาร์ตท็อปโฟร์ตี้ และอยู่ในชาร์ตนานเป็นปี รวมทั้งยังขายได้กว่าล้านก๊อปปี้
      
        การปรากฏตัวของพวกเขาเริ่มขึ้นเมื่อยุค70, Black Sabbath รวมเอาความโดดเด่นของเพลงป๊อปในกลางยุค 60 มาไว้เข้าด้วยกัน การได้รับแบบอย่างจาก Beatles และการได้รับแง่มุมต่างๆจากแนวเพลงป๊อป รวมเป็นแนวเพลงแบบอิเลคทริคสไตล์ ที่เป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวาง
The Beatles ใช้แนวเพลงแบบอะคูสติกบัลลาร์ด ซึ่งได้รับอิทธิพลจากฮาร์ดร็อค หรือ อาร์แอนด์บี อย่างไรก็ตามในต้นยุค 70 สไตล์เพลงแบบนี้ก็กลายเป็นต้นแบบให้กับศิลปินรุ่นใหม่ กับแนวเพลงซอฟร็อค อย่างเช่น James Taylor และ the Carpenters พัฒนาการเล่นเฉพาะแนวบัลลาร์ด  รวมถึงศิลปินร็อคอย่าง Led Zeppelin และ Grand Funk Railroad  ใช้แนวเพลงที่ฉีกแนวออกไป ในนณะที่เพลงอาร์แอนด์บีมีกระแสที่รุนแรงมากขึ้น

       การเปลี่ยนแปลงของวงการร็อคครั้งแรกได้เข้ามาแทนที่ The Beatles ซึ่งมิได้มีการพัฒนาเพลงของพวกเขาเลย และการแสดงที่แย่ลง แต่ยังคงได้รับการกล่าวขวัญถึงชื่อเสียงของพวกเขาอยู่ Black Sabbath ทำงานที่หนักแน่นมากกว่าที่จะใช้แนวเพลงโฟล์คบลูส์อย่าง Led Zeppelin ซึ่งถูกวิภาควิจารณ์อย่างหนัก (และแม้นักวิจารณ์จะสงบศึกกับ Zeppelinแล้ว แต่ Sabbath ก็ยังไม่เป็นที่ยอมรับ) แต่ทางวงก็ได้สร้างแฟนเพลงของตัวเองสำหรับงานเพลงที่ยังไม่ได้รับการยอมรับของพวกเขา

       Black Sabbath ออกงานชุดที่สองในเวลาอันรวดเร็ว ชื่ออัลบั้ม Paranoid ในเดือนกันยายนปี 1970 เพลงเดียวกับชื่ออัลบั้มเป็นซิงเกิ้ลแรกที่ถูกปล่อยออกมาก่อนหน้างานของ LP และขึ้นสู่ท็อปไฟฟ์ใน UK ชาร์ต และอัลบั้มนี้ก็ขึ้นสู่อันดับหนึ่ง

       ในอเมริกา ที่ที่อัลบั้มแรกของพวกเขาออกวางตลาด อัลบั้ม Paranoid ถูกปล่อยออกมาในเดือนมกราคม 1971 และเพลงเดียวกันกับชื่ออัลบั้มก็เข้าสู่ชาร์ตในเดือนพฤศจิกายน และอัลบั้มก็เข้าสู่ท็อปเท็นในเดือนมีนาคม ปี 1971 และติดอยู่ในชาร์ตนานนับปี และขายได้มากกว่าสี่ล้านแผ่น ความพยายามที่จะเป็นเบสเซลลิ่ง ( พวกเขากระตุ้นยอดขายโดย ปล่อยเพลง Iron Man ออกมาทีหลัง เป็นซิงเกิ้ลที่ปล่อยออกมาในอเมริกาตอนต้นปี 1972 การขึ้นสู่อันดับที่ 45 ซึ่งเกือบจะมาถึงครึ่งทางของชาร์ตเป็นการแสดงถึงความสำเร็จในอเมริกาของพวกเขา)

       Master Of Reality เป็นอัลบั้มที่สามที่ออกมาในเดือนสิงหาคมปี 1971 และขึ้นสู่อันดับท็อปเท็นทั้งสองฝั่งของ Atlantic และขายได้มากกว่าล้านแผ่น  Black Sabbath อัลบั้มที่สี่ (กันยายน 1972) เป็นอีกหนึ่งงานที่เข้าสู่อันดันท็อปเท็นของอัลบั้มที่มียอดขายถึงล้านแผ่น สำหรับอัลบั้ม Sabbath Bloody Sabbath (พฤศจิกายน 1973) ทางวงได้มือคีร์บอร์ดของวง Yes คือ Rick Wakeman มาเล่นให้หนึ่งเพลง เป็นการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยที่เกิดขึ้นกับทิศทางเพลง ทำให้งานเพลงชุดที่ 5 นี้ขึ้นสู่ท็อปเท็นอัลบั้มที่ขายได้กว่าล้านแผ่น

       อัลบั้ม Technical Ecstasy (เดือนตุลาคม ปี 1976) ซึ่งได้นำความคิดของ Lommi มาใช้ทำให้งานออกมาค่อนข้างดี แต่ก็ไม่ถึงกับดีที่สุดสำหรับยอดขาย ความพอใจของ Osbourne ส่งผลให้เขาออกจากวงในเดือนพฤศจิกายน 1977 วงก็ได้หานักร้องมาแทน Savoy Brown นักร้องของ Dave Walker และกลับมาอีกครั้งในเดือนมกราคมปี 1978

       Black Sabbath บันทึกเสียงอัลบั้มชุดที่ 8, Never Say Die! (เดือนกันยายน 1978) เพลงเดียวกับชื่ออัลบั้มเข้าสู่อันดับที่ 40 ของ UK. ชาร์ตก่อนที่งานของ LP จะถูกปล่อยออกมา และเพลง Hard Road ก็เข้าสู่อันดับที่ 40 หลังจากนั้น แต่ซิงเกิ้ลนี้ก็ไม่ประสบความสำเร็จในทางการค้าเพราะเป็นงานที่เรียบง่ายไม่โดดเด่น บวกกับการที่นักร้องนำอย่าง Osbourne ออกไปทำงานเดี่ยว และได้คนมาแทนจากวง Rainbow อย่าง Ronnie James Dio (เกิดเมื่อ 10 มิถุนายน 1949) (และระหว่างนี้ มือคีย์บอร์ดอย่าง Geoff Nichols ก็ร่วมแสดงและบันทึกเสียงกับวงจนกลายเป็นหนึ่งในสมาชิกของวงในที่สุด


       การกลับมารวมตัวของสมาชิกดั้งเดิมเกิดขึ้นอีกครั้งเมื่อ 2-3 ปีก่อน เพื่อออกทัวร์คอนเสิร์ตที่  Ozzfest ซึ่งเป็นที่ปลาบปลื้มของแฟนเพลงเป็นอย่างมาก และการผลงานเพลงคลาสสิคของพวกเขาก็เป็นเรื่องที่ไม่น่าเบื่อเลยสักนิด