Skid Row

       Skid Row เป็นวง Heavy metal ที่ถือได้ว่าเป็นต้นแบบวง metal ในยุค 90s เลยก็ว่าได้
พวกเขาเริ่มก่อตั้งวงกันใน New Jersey ปี 1986 โดยทีตัวตั้งตัวตีคือ Rachel Bolan มือ Bass และ Dave Sabo มือ guitar นั่นเอง

       โดยทั้งคู่ได้ค้นหาสมาชิกมาร่วมทำวง metal กันและได้พบกับมือ guitar อีกคนคือ Scotti Hill เข้าหลังจากนั้นก็ได้ Rob Affuso เข้ามาทำหน้าที่หวดกลองให้โดยในยุคแรกนั้น นักร้องนำ คือ Matt Fallon ก่อนที่จะถูกแทนที่ด้วย Sebastian Bach นักร้องนำสุดจี๊ดแห่งยุคปลาย 80s ถึงต้น 90s

        ในปี 1987 พวกเขาก็ได้เริ่มตระเวณเล่นดนตรีกันตาม clubs ทั่วฝั่ง eastern กันเลยทีเดียว
(ทำไมมันดูน่าสนุกยังงี้  คิดจะทำอะไรก็ทำกันได้เลย โอกาสมันช่างเยอะแยะเสียเหลือเกิน) 

แต่เหมือนว่าโชคชะตาจะเข้าข้าง เพราะ Sabo นั้นเป็นเพื่อนสนิทกันกับ Jon Bon Jovi นักร้องนำของวง Bon Jovi สุดโด่งดัง และการช่วยเหลือของ Jon Bon Jovi นี่เองที่ทำให้ Skid Row ได้เริ่มต้นบันทึกเสียง กับ Atlantic


และในปี 1989 พวกเขาก็ปล่อย Album แรกออกมากระแทกหูชาวโลก ในชื่อ album สิ้นคิด เอ้ย เรียบง่ายว่า Skid Row
แต่ดนตรีไม่เรียบง่าย จืดชืด แบบชื่ออัลบั้ม เพราะ Skid Row ชุดนี้ประสบความสำเร็จอย่างมาก ในทันที

"18 and Life", "I Remember You", และ "Youth Gone Wild" ก็เข้าไปกระแทกรูหู และกระแทกใจผู้ฟังกันอย่างสนั่นหวั่นไหว ควักกระเป๋าจ่าย ซื้อ album นี้กันไปแทบไม่ทัน...ทั่วโลก 


ความสำเร็จของ album แรกก็ทำให้พวกเขามีตาราง tour กันยาวเหยียดตลอดปี ไม่ต้องพัก ไม่ต้องอยู่บ้านกันเรียกว่านอนกันบนรถ tour ตลอดปี



และจากการออก tour ของ skid row ก็ทำให้เราได้พบว่า นอกจากดนตรีที่เข้มข้น หนักหน่วง แล้ว เจ้านักรัองนำ Sebastian Bach ก็หนักหน่วงไม่แพ้กัน 


ใน VDO ของ Skid Row ที่ชื่อว่า Oh Say Can You Scream? เราจะได้เห็นภาพที่ Bach ปาขวดใส่คนดู เนื่องจากเขาโดนปาขวดใส่ก่อนจนได้รับบาดเจ็บ ใน concert ที่ Springfield, Massachusetts โดย Skid Row เล่นเป็นวงเปิดในกับ Aerosmith





ในปี 1991 พวกเขาก็ออกมาย้ำความสำเร็จด้วย album ที่สองในชื่อ
Slave to the Grind ซึงสามารถขึ้นถึงอันดับ 1 ของ American Charts เลยทีเดียว


Slave to the Grind ไม่ทำให้ผมและแฟนๆ Skid Row ผิดหวังกับดนตรีที่เข้มข้นกว่าเดิม และเสียงร้องทรงพลังที่ยากที่จะหาใครเทียบในยุคนั้น แล้ว Skid Roiw ก็ออก world tour กันเลยแน่นอนว่ากินเวลาข้ามปีกันทีเดียวครับ  


ในขณะที่ Album ชุด Skid Row นั้นออกมาในแบบฉบับของ Hair Metal Band
แต่ Slave to the Grind นั้น Heavier  ถึงขั้น Thrash กันได้เลย กับเพลงอย่าง Mudkicker เป็นต้น โครตมันส์เลยครับ แฟนๆ Skid Row คงจะเข้าใจดี 


4 ปีผ่านไป ไวเหมือนโกหกพวกเขากลับมาอีกครั้งกับ Album ที่ 3 ในชื่อ Subhuman Race ในปี 1995 นั่นเอง  ซึ่งเพลงของพวกเขาไต่ขึ้น chart เพลง hit ได้แค่อันดับ 40 เท่านั้นซึ่งเป็นเรื่องที่น่าแปลกใจพอสมควรและแม้ว่า Subhuman Race จะได้ดังเปรี้ยงปร้างเหมือน 2 albums แรกของพวกเขา แต่ผมก็ซื้อ . . . และเชื่อว่าแฟนๆก็ยังคงติดตามผลงานของพวกเขาตลอด 


แต่มีขึ้นก็ต้องมีลงเป็นธรรมดาเมื่อ Subhuman Race ไม่โดนใจนัก ทำให้เพลงของพวกเขาถูกเปิดใน MTV น้อยลงไปมากและก็ส่งผลต่อยอดขายในเวลาต่อมา 




ในปี 1997 Sebastian Bach ก็โดนไล่ออกจากวง หลังจากการ tour concert กับวงระดับตำนานอย่าง Kiss เนื่องจากความประพฤติของ Bach นั่นเองที่ก้าวร้าว เมา และ ควบคุมตัวเองไม่ได้

แต่ Skid Row ก็ไม่ได้ยุบวง และยังคงแสดงดนตรีของพวกเขากันต่อไป กับนักร้องคนใหม่ Shawn McCabe แต่ใช้ชื่อวงใหม่ว่า Ozone Monday ทว่าเป็นการแสดงดนตรีระยะสั้นๆเท่านั้น 



Skid Row กลับมา reform วงกันอีกครั้งในปี 1999
ด้วยนักร้องนำคนใหม่ คือ Johnny Solinger
และมือกลองคนใหม่ คือ Charlie Mills
ซึ่งต่อมาไม่นานก็เปลี่ยนมือกลองเป็น Phil Varone อีกที

แล้วพวกเขาก็ออก tour เป็นวงเปิดใน Kiss  อีกครั้งใน farewell tour และยังเล่นร่วมกับวง Hair Metal Band สุดเจ๋งอย่าง Poison ด้วยเช่นกัน

พวกเขายังไปร่วมเล่นดนตรีในงาน Rock Never Stops Tour อีกในปี 2002 แต่ไม่มี Bach แล้ว ก็เหมือนไม่มี Skid Row ครับ  สำหรับผมนะ คือมันเป็น First Impression ที่มีต่อ Skid Row ไปแล้วว่า ถ้าวงนี้ ต้องเสียงร้องของ Bach เท่านั้น มันถึงจะกรีดวิญญาณกันออกมาได้


ในปี 2003 พวกเขาออก album ที่ 4 กันในชื่อว่า Thickskin ผมไม่ได้ติดตามข่าวเลยครับ ไม่ได้ซื้อด้วย ไม่เคยฟัง เพราะนักร้องยังเป็น Johnny Solinger อยู่ครับ
ถือเป็น First Album ของ Johnny Solinger และ Phil Varone กับ Skid Row

แต่หลังจากออกชุดที่ 4Phil Varone ก็ออกจากวง และถูกแทนที่ด้วย Dave Gara ไปในทันทีจะเห็นว่าเปลี่ยนสมาชิกกันเป็นว่าเล่นครับ น่าจะมาจากความไม่ประสบความสำเร็จของเพลงและความไม่ลงตัวของวง


ไม่น่าเชื่อครับว่า พวกเขาก็เข็น อัลบั้มที่ 5 ตามมาในปี 2006 ปีที่แล้วนี่เอง ในชื่อ album ว่า Revolutions Per Minute กับค่าย SPV Records
ในชุดนี้ เขาได้ producer คู่ใจกลับมาทำงานด้วยนั่นก็คือ Michael Wagener
ผู้ซึ่ง produced ให้กับ 2 ชุดแรกที่ประสบความสำเร็จสูงสุดของ Skid Row

สมาชิกปัจจุบัน
Johnny Solinger vocals
Dave "The Snake" Sabo rhythm guitar
Scotti Hill lead guitar
Rachel Bolan bass
Dave Gara drums

สมาชิกเก่า
Matt Fallon vocals
Sebastian Bach vocals
Steve Brotherton lead guitar
Kurtis Jackson lead guitar
Charlie Mills drums
Tim DiDuro drums
Rob Affuso drums
Phil Varone drums 
•