Black Sabbath
มีอิทธิพลอย่างมากต่อการพัฒนาวงการเพลงเฮฟวีเมตัล
รวมถึงยังเป็นผู้คิดค้นสไตล์เพลงแบบนี้อีกด้วย Black Sabbath
ได้นำเอากลิ่นไอบลูส์ร็อคของวงในปลายยุค 60 อย่างเช่น Cream, Blue Cheer, และ
Vanilla Fudge มาใส่ในงานของพวกเขา ด้วยจังหวะที่ช้าลง แต่เบสไลน์ที่โดดเด่น
โซโล่กีตาร์กระชากใจ บวกกับเสียงร้องที่โหยหวน
เนื้อร้องที่เต็มไปด้วยการแสดงออกถึงอารมณ์ ความเจ็บปวดทรมาน
และจินตนาการอันน่ากลัว และถ้าก่อนหน้านี้มีวงดนตรีอื่นที่ทำผลงานออกมาในแนวบลูส์
วง Black Sabbath ก็ทำงานเพลงที่แหวกแนวขึ้นไปอีก
และยังก่อให้เกิดแนวเพลงในทิศทางใหม่ๆที่เรียกความสนใจจากแฟนเพลงนับล้านคนในเวลาต่อมา
วงประกอบด้วยเด็กหนุ่มสามคนจาก Aston ใกล้กับ Birmingham ประเทศอังกฤษ: Anthony
หรือ Tony Lommi มือกีตาร์ (เกิดเมื่อ 19 กพ.1948), William Bill Ward มือกลอง
(เกิดเมื่อ 5 พค. 1948) และ John Ozzy Osbourne นักร้องนำ (เกิดเมื่อ 3 ธันวาคม
1948) และ Terence "Geezer" Butler มือเบส (เกิดเมื่อ 17 กค.1949)
พวกเขาเรียกวงแนวบลูส์แจ๊สของตัวเองว่า Polka Tulk และต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็น Earth
ต้นปี 1969 เมื่อออกแสดงทั่วยุโรปแล้ว พวกเขาก็ตัดสินใจเปลี่ยนชื่อวง
เนื่องจากพบว่าพวกเขาถูกจำสับสนกับวงดนตรีที่ชื่อ Earth เช่นกัน Butler
เขียนเพลงที่นำชื่อเพลงมาจาก นวนิยายลึกลับของ Dennis Wheatley ชื่อว่า Black
Sabbath และนำมาใช้ตั้งเป็นชื่อวงอีกด้วย
เมื่อพวกเขาออกแสดงสด ค่ายเพลงหลายค่ายแสดงความสนใจ และพวกเขาตกลงเซ็นสัญญากับค่าย
Phillips Record ในปี 1969 เดือนมกราคม ปี 1970 สังกัดย่อยของค่าย Phillips
ที่ชื่อ Fontana ได้ออกซิงเกิ้ล Evil Woman (Don't Play Your Games With Me)
เป็นเพลงคัฟเวอร์เพลงฮิตในอเมริกาแต่ก็ไม่ติดชาร์ต ในเดือนต่อมา สังกัดอื่นของค่าย
Phillips อย่าง Vertigo ได้ปล่อยอัลบั้มที่ใช้ชื่อวง Black Sabbath
และเป็นอัลบั้มที่ขึ้นสู่ UK ท๊อปเท็น
ถึงแม้ว่าอัลบั้มนี้ไม่ได้ประสบความสำเร็จอย่างทันทีในอเมริกา
ที่ที่วงออกอัลบั้มกับค่าย Warner Bros. Records และออกวางตลาดในเดือนพฤษภาคม 1970
และเข้าสู่อเมริกันชาร์ตในเดือนสิงหาคมปีเดียวกัน
และไต่ขึ้นสู่อันดับในชาร์ตท็อปโฟร์ตี้ และอยู่ในชาร์ตนานเป็นปี
รวมทั้งยังขายได้กว่าล้านก๊อปปี้
การปรากฏตัวของพวกเขาเริ่มขึ้นเมื่อยุค70, Black Sabbath
รวมเอาความโดดเด่นของเพลงป๊อปในกลางยุค 60 มาไว้เข้าด้วยกัน การได้รับแบบอย่างจาก
Beatles และการได้รับแง่มุมต่างๆจากแนวเพลงป๊อป รวมเป็นแนวเพลงแบบอิเลคทริคสไตล์
ที่เป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวาง
The Beatles ใช้แนวเพลงแบบอะคูสติกบัลลาร์ด
ซึ่งได้รับอิทธิพลจากฮาร์ดร็อค หรือ อาร์แอนด์บี อย่างไรก็ตามในต้นยุค 70
สไตล์เพลงแบบนี้ก็กลายเป็นต้นแบบให้กับศิลปินรุ่นใหม่ กับแนวเพลงซอฟร็อค อย่างเช่น
James Taylor และ the Carpenters พัฒนาการเล่นเฉพาะแนวบัลลาร์ด
รวมถึงศิลปินร็อคอย่าง Led Zeppelin และ Grand Funk Railroad
ใช้แนวเพลงที่ฉีกแนวออกไป ในนณะที่เพลงอาร์แอนด์บีมีกระแสที่รุนแรงมากขึ้น
การเปลี่ยนแปลงของวงการร็อคครั้งแรกได้เข้ามาแทนที่ The Beatles
ซึ่งมิได้มีการพัฒนาเพลงของพวกเขาเลย และการแสดงที่แย่ลง
แต่ยังคงได้รับการกล่าวขวัญถึงชื่อเสียงของพวกเขาอยู่ Black Sabbath
ทำงานที่หนักแน่นมากกว่าที่จะใช้แนวเพลงโฟล์คบลูส์อย่าง Led Zeppelin
ซึ่งถูกวิภาควิจารณ์อย่างหนัก (และแม้นักวิจารณ์จะสงบศึกกับ Zeppelinแล้ว แต่
Sabbath ก็ยังไม่เป็นที่ยอมรับ)
แต่ทางวงก็ได้สร้างแฟนเพลงของตัวเองสำหรับงานเพลงที่ยังไม่ได้รับการยอมรับของพวกเขา
Black Sabbath ออกงานชุดที่สองในเวลาอันรวดเร็ว ชื่ออัลบั้ม Paranoid
ในเดือนกันยายนปี 1970
เพลงเดียวกับชื่ออัลบั้มเป็นซิงเกิ้ลแรกที่ถูกปล่อยออกมาก่อนหน้างานของ LP
และขึ้นสู่ท็อปไฟฟ์ใน UK ชาร์ต และอัลบั้มนี้ก็ขึ้นสู่อันดับหนึ่ง
ในอเมริกา ที่ที่อัลบั้มแรกของพวกเขาออกวางตลาด อัลบั้ม Paranoid
ถูกปล่อยออกมาในเดือนมกราคม 1971
และเพลงเดียวกันกับชื่ออัลบั้มก็เข้าสู่ชาร์ตในเดือนพฤศจิกายน
และอัลบั้มก็เข้าสู่ท็อปเท็นในเดือนมีนาคม ปี 1971 และติดอยู่ในชาร์ตนานนับปี
และขายได้มากกว่าสี่ล้านแผ่น ความพยายามที่จะเป็นเบสเซลลิ่ง (
พวกเขากระตุ้นยอดขายโดย ปล่อยเพลง Iron Man ออกมาทีหลัง
เป็นซิงเกิ้ลที่ปล่อยออกมาในอเมริกาตอนต้นปี 1972 การขึ้นสู่อันดับที่ 45
ซึ่งเกือบจะมาถึงครึ่งทางของชาร์ตเป็นการแสดงถึงความสำเร็จในอเมริกาของพวกเขา)
Master Of Reality เป็นอัลบั้มที่สามที่ออกมาในเดือนสิงหาคมปี 1971
และขึ้นสู่อันดับท็อปเท็นทั้งสองฝั่งของ Atlantic และขายได้มากกว่าล้านแผ่น Black
Sabbath อัลบั้มที่สี่ (กันยายน 1972)
เป็นอีกหนึ่งงานที่เข้าสู่อันดันท็อปเท็นของอัลบั้มที่มียอดขายถึงล้านแผ่น
สำหรับอัลบั้ม Sabbath Bloody Sabbath (พฤศจิกายน 1973) ทางวงได้มือคีร์บอร์ดของวง
Yes คือ Rick Wakeman มาเล่นให้หนึ่งเพลง
เป็นการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยที่เกิดขึ้นกับทิศทางเพลง ทำให้งานเพลงชุดที่ 5
นี้ขึ้นสู่ท็อปเท็นอัลบั้มที่ขายได้กว่าล้านแผ่น
อัลบั้ม Technical Ecstasy (เดือนตุลาคม ปี 1976) ซึ่งได้นำความคิดของ Lommi
มาใช้ทำให้งานออกมาค่อนข้างดี แต่ก็ไม่ถึงกับดีที่สุดสำหรับยอดขาย ความพอใจของ
Osbourne ส่งผลให้เขาออกจากวงในเดือนพฤศจิกายน 1977 วงก็ได้หานักร้องมาแทน Savoy
Brown นักร้องของ Dave Walker และกลับมาอีกครั้งในเดือนมกราคมปี 1978
Black Sabbath บันทึกเสียงอัลบั้มชุดที่ 8, Never Say Die! (เดือนกันยายน 1978)
เพลงเดียวกับชื่ออัลบั้มเข้าสู่อันดับที่ 40 ของ UK. ชาร์ตก่อนที่งานของ LP
จะถูกปล่อยออกมา และเพลง Hard Road ก็เข้าสู่อันดับที่ 40 หลังจากนั้น
แต่ซิงเกิ้ลนี้ก็ไม่ประสบความสำเร็จในทางการค้าเพราะเป็นงานที่เรียบง่ายไม่โดดเด่น
บวกกับการที่นักร้องนำอย่าง Osbourne ออกไปทำงานเดี่ยว และได้คนมาแทนจากวง Rainbow
อย่าง Ronnie James Dio (เกิดเมื่อ 10 มิถุนายน 1949) (และระหว่างนี้
มือคีย์บอร์ดอย่าง Geoff Nichols
ก็ร่วมแสดงและบันทึกเสียงกับวงจนกลายเป็นหนึ่งในสมาชิกของวงในที่สุด
การกลับมารวมตัวของสมาชิกดั้งเดิมเกิดขึ้นอีกครั้งเมื่อ 2-3 ปีก่อน
เพื่อออกทัวร์คอนเสิร์ตที่ Ozzfest ซึ่งเป็นที่ปลาบปลื้มของแฟนเพลงเป็นอย่างมาก
และการผลงานเพลงคลาสสิคของพวกเขาก็เป็นเรื่องที่ไม่น่าเบื่อเลยสักนิด